ชาไทย เครื่องดื่มที่ความอร่อยติดอันดับ 7 ของโลก

825 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ชาไทย เครื่องดื่มที่ความอร่อยติดอันดับ 7 ของโลก

          นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่เครื่องดื่มคู่มื้ออาหารของคนไทย ได้กลายเป็นเครื่องดื่มที่มีชื่อเสียงระดับโลก หากจะนึกถึงอาหารไทยสักหนึ่งเมนู เรามั่นใจว่านอกจากผัดไทกับส้มตำแล้ว ชาวต่างชาติก็คงจะนึกถึงเมนูเครื่องดื่มสีส้มๆ อย่าง ชาไทย อีกด้วย เพราะล่าสุดเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ชื่อดังด้านอาหารอย่าง TasteAtlas ได้ทำการจัดอันดับ “100 เครื่องดื่ม (ไม่มีแอลกอฮอล์) ที่อร่อยที่สุดในโลก” และเครื่องดื่มคู่มื้ออาหารของคนไทยก็ได้คว้าอันดับที่ 7 มา โดยเครื่องดื่มที่อร่อยที่สุดในโลกที่คว้าอันดับที่ 1 ไปคือเครื่องดื่ม Darjeeling จากประเทศอินเดีย ในเว็บไซต์ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องดื่มของประเทศไทยไว้ว่า เป็นเครื่องดื่มที่มีรสชาติชาแบบไทยแท้ ด้วยการผสมผสานของชาดำเข้มข้ม นมข้นหวาน น้ำตาลและเสิร์ฟพร้อมกับน้ำแข็งบด ซึ่งใบชาที่นำมาใช้ในการชงเครื่องดื่มนั้นเป็นชาซีลอนเข้มข้น ผสมกับเครื่องเทศหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นโป๊ยกั๊ก เม็ดมะขามบด  ใบกระวานหรือน้ำลอยดอกส้ม เป็นเครื่องดื่มที่มีสีส้มอำพันเป็นเอกลักษณ์และแต้มสีสันด้วยสีขาวจากการเติมนมสดลงไปด้านบน พบเห็นได้ในหลายๆร้านอาหารในสหรัฐอเมริกา และพบเห็นได้ตามร้านข้างทางไปจนถึงร้านอาหารที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย

ชาไทย ชื่อนี้คนไทยไม่ได้ตั้ง

          กว่าจะเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกนั้น ต้องผ่านการเกิดของส่วนผสมหลายๆ อย่างในแต่ละยุคสมัยของประเทศไทย ซึ่งคำว่า “ชาไทย” หรือ “Thai Tea” เป็นชื่อที่ไม่ได้มาจากคนไทยตั้งขึ้นเอง แต่ถูกตั้งขึ้นโดยชาวต่างชาติที่ได้เข้ามาเห็นสี เข้ามาชิมรสชาติของชาที่มีเอกลักษณ์และสามารถหาดื่มได้ในประเทศไทยเท่านั้น  วัฒนธรรมการดื่มชาเริ่มเข้ามาในสมัยพระนารายณ์ มหาราชที่มีการติดต่อค้าขายกับประเทศจีน โดยวิธีการในการดื่มชาคือการอมน้ำตาลกรวดไว้ในปากก่อน แล้วตามด้วยการดื่มชาร้อนๆเข้าไป ซึ่งการดื่มชาในยุคสมัยนั้นยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก เพราะมีวิธีการดื่มที่ค่อนข้างแปลกไปกว่าปัจจุบันและการดื่มชามักจะถูกดื่มในกลุ่มชนชั้นสูง ในราชการหรือนำมาถวายพระมากกว่า จนกระทั่งประเทศไทยได้มีการติดต่อค้าขายและได้รับอิทธิพลการดื่มชาแบบใส่นมและน้ำตาลมาจากประเทศอินเดีย  โดยเฉพาะในปี พ.ศ. 2436 ที่ประเทศไทยเริ่มวางขายนมข้นหวานตราแหม่มทูนหัว และในปี พ.ศ. 2446 ที่ประเทศไทยจัดตั้งโรงงานน้ำแข็งเป็นแห่งแรก ทำให้การดื่มชาที่ใส่นม ใส่น้ำตาลได้เปลี่ยนจากเครื่องดื่มเมนูร้อน เป็นเครื่องดื่มเมนูเย็นที่มีความสดชื่นของการเติมน้ำแข็งลงไป จนกลายเป็นเครื่องดื่มดับร้อนที่มักจะอยู่คู่กับร้านกาแฟโบราณเสมอ

ชงเครื่องดื่ม ชาไทย ด้วยใบชาไทย เกรดเอ ทั้ง 2 สูตรของบาริสต้า บัดดี้

          ใบชาไทย ของบาริสต้า บัดดี้เป็นใบชาเกรดเอ เป็นใบชาแท้ที่ไม่ผสมใบปอ มีวิธีการคั่วใบชาตามต้นตำรับของการคั่วชาแบบไทยแท้  ใบชาของชาแดงไทยจะแห้งและไม่มีสารปรุงแต่งกลิ่น เหมาะสำหรับการนำมาชงเครื่องดื่มเมนู ชาเย็น ชาดำเย็น ชามะนาว หรือชาร้อน ซึ่งชาไทยของบาริสต้ามี 2 สูตรชาไทยเข้มข้น ให้คุณเลือก ได้แก่ สูตรที่หนึ่ง “ชาไทยสูตรเอ็กตร้า” รสชาติกลมกล่อม หอมละมุน ดื่มง่าย สูตรที่สอง “ชาแดงไทยสูตรพรีเมียม” รสชาติเข้มข้น หอมรัญจวนใจ โดยวิธีใช้ใบชาไทยของบาริสต้า บัดดี้ทั้ง 2 สูตรมาชงเครื่องดื่มนั้นก็ง่ายแสนง่าย เพียงชาไทย 80 กรัม ต่อน้ำร้อน 1,000 มิลลิลิตร แช่ใบชาทิ้งไว้ 15 นาที หลังจากนั้นแยกน้ำชาเป็นเบสไว้ผสมความหวานด้วยน้มข้นหวาน นมข้นจืดหรือน้ำตาลทรายตามใจชอบ ส่วนการเก็บรักษานั้น หลังจากที่คุณใช้ใบชาไทยของบาริสต้า บัดดี้ทั้ง 2 สูตรเสร็จแล้ว ให้เก็บชาไทยในถุงบรรจุภัณฑ์ที่ปิดสนิท หลีกเลี่ยงการโดนความร้อน แสง และอากาศ สามารถเก็บรักษาได้นานถึง 2 ปีทั้ง 2 สูตร (นับจากวันที่ผลิต)

สูตรชงเครื่องดื่ม ชาไทย ด้วย 2 สูตรใบชาไทยของบาริสต้า บัดดี้

1. Iced Thai Tea

ส่วนประกอบที่ต้องเตรียม

     1.) ใบชาไทยสูตรเอ็กตร้า หรือสูตรพรีเมียม ของบาริสต้า บัดดี้ 5 กรัม
     2.) น้ำร้อน 3/4 ถ้วยตวง
     3.) นมข้นหวาน นมข้นจืดและน้ำตาลทราย 
     4.) น้ำแข็ง

วิธีชงเครื่องดื่ม
     นำชาไทยกรองผ่านน้ำร้อน เพื่อให้ได้น้ำชาที่ถูกสกัด แล้วนำมาผสมเข้ากับนมข้นหวาน นมข้นจืดและน้ำตาลทราย คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน สามารถปรับความหวานได้ตามความชื่นชอบ หลังจากนั้นเทน้ำชาที่รสชาติลงตัวแล้วใส่แก้วที่เตรียมน้ำแข็งไว้ 3/4 ของแก้ว เติมความหวานมันและสีสันด้วยการราดนมข้นจืดลงไปด้านบน เป็นอันพร้อมเสิร์ฟ

2. Cocoa Thai Tea

ส่วนประกอบที่ต้องเตรียม
     1.) ใบชาไทยสูตรเอ็กตร้า หรือสูตรพรีเมียม ของบาริสต้า บัดดี้ 5 กรัม
     2.) ผงโกโก้สูตรพรีเมียมของบาริสต้า บัดดี้  1 ช้อนโต๊ะ
     3.) น้ำร้อน 3/4 ถ้วยตวง
     4.) นมข้นหวาน นมข้นจืดและน้ำตาลทราย 
     5.) น้ำแข็ง

วิธีชงเครื่องดื่ม
     นำชาไทยกรองผ่านน้ำร้อน เพื่อให้ได้น้ำชาที่ถูกสกัด และแบ่งน้ำชาออกเป็น 2 ส่วน ส่วนละ 30 มิลลิลิตรและ 90 มิลลิลิตร นำส่วน 30 มิลลิลิตรผสมเข้ากับผงโกโก้สูตรพรีเมียมของบาริสต้า บัดดี้ คนผงโกโก้ให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียวกับน้ำชา และนำส่วน 90 มิลลิลตรผสมเข้ากับนมข้นหวาน นมข้นจืดและน้ำตาลทราย คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน สามารถปรับความหวานได้ตามความชื่นชอบ หลังจากนั้นเทน้ำชาที่มีส่วนผสมของผงโกโก้ลงไปในแก้วที่เตรียมน้ำแข็งเอาไว้ก่อนและตามด้วยเทน้ำชาล้วนตามลงไป เพื่อสร้างเลเยอร์ความสวยงามให้กับเครื่องดื่ม

3. Bubble Thai Tea

ส่วนประกอบที่ต้องเตรียม
     1.) ชาไทยสูตรเอ็กตร้า หรือสูตรพรีเมียม ของบาริสต้า บัดดี้ 5 กรัม
     2.) น้ำร้อน 3/4 ถ้วยตวง
     3.) นมข้นหวาน นมข้นจืดและน้ำตาลทราย
     4.) ไข่มุกต้มสุก
     5.) น้ำแข็ง

วิธีชงเครื่องดื่ม
     นำชาไทยกรองผ่านน้ำร้อน เพื่อให้ได้น้ำชาที่ถูกสกัด แล้วนำมาผสมเข้ากับนมข้นหวาน นมข้นจืดและน้ำตาลทราย คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน สามารถปรับความหวานได้ตามความชื่นชอบ หลังจากนั้นเทน้ำชาที่รสชาติลงตัวแล้วใส่แก้วที่เตรียมไข่มุกต้มสุกพร้อมน้ำแข็งไว้ 3/4 ของแก้ว เติมความหวานมันและสีสันด้วยการราดนมข้นจืดลงไปด้านบน หรือคุณสามารถทำเป็นเมนูน้ำปั่นได้ เพียงแค่เทน้ำชาที่รสชาติลงตัวแล้วลงไปในเครื่องปั่นที่มีน้ำแข็งเตรียมไว้ ปั่นน้ำชาและน้ำแข็งให้เป็นเนื้อเดียวกัน หลังจากนั้นเทน้าปั่นลงใส่แก้วที่เตรียมไข่มุกต้มสุกเอาไว้ ปักหลอด เป็นอันพร้อมเสิร์ฟ

ติดต่อสอบถาม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ Line Official คลิ๊ก >> 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้