846 จำนวนผู้เข้าชม |
การเปิดร้านกาแฟด้วยตัวเองในปัจจุบันนอกจากจะเป็นการแข่งขันกับตัวเองและเวลาแล้ว ในปัจจุบันการเปิดร้านกาแฟยังต้องแข่งขันกับร้านกาแฟอื่นๆ ที่อาจจะเปิดขึ้นพร้อมกันด้วย ซึ่งในการเปิดร้านกาแฟด้วยตัวเองนั้นเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยเงินและเวลาในการวางแผนและลงมือทำเป็นระยะเวลานานมาก มีรายละเอียดเยอะและซับซ้อนที่อาจจะทำให้เจ้าธุรกิจตกหล่นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่สำคัญไป ดังนั้นเบื้องหลังความสำเร็จของร้านกาแฟหลายร้านจึงต้องมีผู้ช่วยอย่าง Consult คาเฟ่ ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจกาแฟเข้ามาเพื่อช่วยลดสิ่งที่ไม่จำเป็น เพิ่มความสำเร็จและเตรียมเจ้าของธุรกิจให้พร้อมกับการแข่งขันที่ค่อนข้างสูงในตลาด ซึ่งสำหรับใครที่ยังไม่เห็นภาพว่าการเปิดร้านด้วยตัวเองโดยไม่มีที่ปรึกษานั้นมีรายละเอียดปลีกย่อยเยอะแค่ไหน วันนี้เราจะพาไปเจาะลึกขั้นตอนการเปิดร้านกาแฟด้วยตัวเอง พร้อมบอกข้อดีของการมีที่ ปรึกษาธุรกิจกาแฟ และแนะนำที่ปรึกษาธุรกิจดีๆ ที่ครอบคลุมเรื่องการเปิดร้านกาแฟให้กับทุกคน
การเปิดร้านกาแฟด้วยตัวเองต้องเริ่มนับตั้งแต่ศูนย์ คือลงมือศึกษาข้อมูลต่างๆ ด้วยตัวเอง ไปจนถึงการวิเคราะห์การตลาด การจ้างงาน การเปิดร้านและอื่นๆ ดังนั้นสำหรับใครที่กำลังจะเปิดคาเฟ่ด้วยตัวเองอยู่นั้นเราจะพามาดูว่า ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างกว่าจะได้เปิดคาเฟ่หรือร้านกาแฟสักหนึ่งร้าน
1. ศึกษาธุรกิจกาแฟและสร้างแผนธุรกิจ
การเปิดร้านกาแฟเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนด้านการเงินหรือด้านเวลา ดังนั้นสำหรับใครที่กำลังเริ่มต้นเปิดร้านกาแฟจำเป็นต้องศึกษา ทำความเข้าใจในธุรกิจกาแฟและสิ่งที่ต้องใช้ในการทำร้านกาแฟเพื่อประสบความสำเร็จก่อน ซึ่งในการศึกษาแพลนการทำธุรกิจ เจ้าของธุรกิจจะต้องค้นหาว่า อะไรที่ใช้ได้ผลและใช้ไม่ได้ผลกับธุรกิจ ใครคือกลุ่มเป้าหมาย ความต้องการของลูกค้าคืออะไร จะโปรโมทร้านอย่างไรและสถานที่ไหนจะเหมาะกับร้านกาแฟ โดยข้อมูลที่ศึกษาทั้งหมดเหล่านี้จะเป็นตัวช่วยอย่างดีในการวางแผนการเปิดร้านกาแฟให้กับเจ้าของธุรกิจฃ
2. กำหนดภาพลักษณ์ให้ร้านกาแฟ
ในการเปิดร้านกาแฟเจ้าของธุรกิจทุกคนจะต้องออกแบบภาพลักษณ์และมุมมองที่ต้องการเอาไว้ ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการกำหนดบรรยากาศภายในร้าน เมนูอาหารหรือชื่อเมนูเครื่องดื่ม เพราะสิ่งสำคัญของร้านกาแฟนอกจากรสชาติเครื่องดื่มหรืออาหารที่อร่อยแล้ว สิ่งสำคัญไปกว่านั้นคือบรรยากาศภายในร้านเป็นอย่างไรและเมื่อลูกค้าเดินเข้ามาจะรู้สึกอย่างไร
3. เลือกสถานที่
ทำเลที่ตั้งมีความสำคัญต่อความสำเร็จในธุรกิจร้านกาแฟ ดังนั้นก่อนที่เจ้าของธุรกิจจะตัดสินใจเลือกสถานที่ เจ้าธุรกิจควรพิจารณาสถานที่ในการเปิดร้านจากหัวข้อดังต่อไปนี้ก่อน
3.1) สถานที่ตั้งสามารถมองเห็นได้ชัดเจนไหม
3.2) มีที่จอดรถเพียงพอสำหรับลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการหรือเปล่า หรือบริเวณนั้นมีรถโดยสารสาธารณะเข้าถึงไหม
3.3) สถานที่ที่เจ้าของธุรกิจต้องการมีผู้คนเดินพลุกพล่าน หรือมีการสัญจรอยู่ตลอดหรือไม่ เพียงพอหรือเปล่าต่อการทำให้ร้านกาแฟสามารถอยู่ต่อไปได้
4. ค้นหาซัพพลายเออร์ที่ดีที่สุด
การมีซัพพลายเออร์ที่ดี ก็เหมือนมีพาร์ทเนอร์ที่จะช่วยให้เจ้าของธุรกิจทำงานได้อย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จ โดยซัพพลายเออร์หลักๆ ที่เจ้าของร้านจะต้องติดต่อก็คือซัพพลายเออร์สำหรับเมล็ดกาแฟ นมหรืออุปกรณ์การสร้างสรรค์เมนูต่างๆ รวมไปถึงแก้ว เครื่องชงกาแฟและเครื่องมืออื่นๆ
5. ออกแบบร้านกาแฟให้มีเอกลักษณ์
การออกแบบร้านกาแฟคือสิ่งสำคัญในการดึดดูดลูกค้าให้เข้าร้านและดึงดูดลูกค้าให้กลับมาใช้บริการอีกครั้ง ซึ่งแนวทางในการออกแบบร้านของแต่ละร้านส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับกลุ่มเป้าหมายลูกค้า เจ้าของร้านอาจจะเลือกแบบสำหรับตกแต่งร้านออกมาเลยสักหนึ่งแบบ ยกตัวอย่างเช่น แบบย้อนยุค แบบคาเฟ่ไสตล์เกาหลีหรือแบบโมเดิร์ล โดยการกำหนดการออกแบบให้แน่ชัดและไปในทิศทางเดียวกันทั้งร้านจะเป็นการสร้างเอกลักษณ์ที่แข็งแรงกับร้านได้ดีกว่าการออกแบบที่เอาใจลูกค้าหลากหลายกลุ่ม
6. สร้างสรรค์เมนูเพื่อเติมเต็มร้านกาแฟ
ในการสร้างสรรค์เมนูสำหรับร้านกาแฟ หลายๆ ครั้งที่เจ้าของธุรกิจมักทำผิดพลาดคือการพยายามทำให้ทุกคนพึงพอใจในทุกเมนู แต่ผลลัพธ์ของการทำแบบนั้นกลับกลายเป็นว่าหลายๆ เมนูไม่เคยถูกสั่งเลย ดังนั้นนอกจากการออกแบบอาหารให้มีหน้าตาสวยงาม รสชาติอร่อยแล้ว สิ่งที่ควรทำคือการมีเมนูเด่นหรือเมนูแนะนำเพื่อให้ลูกค้าง่ายต่อการตัดสินใจ
7. จ้างคนที่เหมาะสม
ปัญหาอันดับหนึ่งในธุรกิจที่เจ้าของร้านกาแฟมักจะประสบพบเจอบ่อยๆ ก็คือการค้นหาและรักษาพนักงานที่ยอดเยี่ยมเอาไว้ หลายร้านส่วนใหญ่มักมองหาผู้มีประสบการณ์ ซึ่งเป็นเรื่องพื้นฐานที่เข้าใจได้ แต่ทั้งนี้ส่วนหนึ่งที่สำคัญของการทำงานที่มากกว่าประสบการณ์คือทัศนคติ ดังนั้นในการจ้างคนทุกครั้งอย่าลืมมองหาพนักงานที่จะเข้าใจและเหมาะสมกับร้านกาแฟของคุณ ทั้งนี้ทักษะเป็นเรื่องที่สามารถฝึกฝนได้และการฝึกอบรมหรือเข้าคอร์สเรียนสำหรับทักษะต่างๆ จะเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับพนักงานในร้าน
8. ทำการตลาดให้ร้านกาแฟ
ในสัปดาห์หรือเดือนก่อนที่จะทำการเปิดร้านกาแฟ เจ้าของธุรกิจจะต้องเริ่มวางแพลนและเริ่มโปรโมทร้านกาแฟตามช่องทางต่างๆ โดยเฉพาะโซเชี่ยลมีเดีย อย่าง instagram, page facebook หรือเพจรีวิวร้านกาแฟที่อยู่ในช่องทางต่างๆ เพราะช่องทางเหล่านี้จะเป็นเวทีในการเผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับร้านกาแฟออกไป และนอกจากนั้นอย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่าร้านกาแฟได้รับการอ้างสิทธิ์ข้อมูลสถานที่ให้บริการบน Google Maps หรือยัง ทั้งนี้ก็เพื่อให้ง่ายต่อการนำทางลูกค้าที่จะเดินทางมาที่ร้านและง่ายต่อการเช็คอินลงบนโซเชี่ยลมีเดีย
9. เริ่มต้นเปิดร้านกาแฟ
ก่อนวันที่จะเริ่มต้นเปิดร้านหลังการวางแผนมาอย่างยาวนาน เจ้าของธุรกิจควรตรวจสอบความพร้อมทั้งหมดให้แน่ใจและเตรียมการทุกอย่างให้พร้อมที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แนะนำให้ทดลองเปิดร้านอย่างไม่เป็นทางก่อน เพื่อทดลองระบบ กระบวนการทำงาน ทดสอบการทำงานของพนักงานและบรรยากาศภายในร้าน ซึ่งวิธีการเปิดร้านอย่างไม่เป็นทางการจะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับเจ้าของธุกิจที่จะได้แก้ไขข้อผิดพลาดก่อนวันสำคัญ
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว นักธุรกิจที่กำลังเริ่มต้นหลายๆ คนอาจจะรู้สึกว่าขั้นตอนในการเปิดร้านกาแฟเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก มีขั้นตอนในการจัดการและกระบวนการในการทำงานเยอะ ซึ่งสำหรับใครที่อยากลดเงินทุนและหย่นระยะเวลาในการเปิดร้านกาแฟลงมา เราแนะนำให้มีที่ ปรึกษา เปิดร้านกาแฟ เพราะข้อดีของการมี Consult คาเฟ่ ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจกาแฟจะเป็นผู้ช่วยที่ดีในการจัดระเบียบ จัดการและลดทอนขั้นตอนทุกอย่างเกี่ยวกับการเปิดร้านกาแฟให้น้อยลงและง่ายขึ้น
ข้อดีของการมีที่ปรึกษาด้านธุรกิจคือการเปลี่ยนเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่ายและมุมมองที่มองเข้ามาก็เป็นมุมมองของคนนอก ที่ปรึกษาจะมองเห็นปัญหาหรือโอกาสที่จะเกิดขึ้นมากกว่าเจ้าของธุรกิจ และจะเป็นที่ปรึกษาที่พร้อมเป็นผู้ช่วยที่มีประสบการณ์ที่เข้าใจตลาดของธุรกิจร้านกาแฟมากกว่า เชี่ยวชาญในการวางแผนมากกว่าและเข้าใจมุมต่างๆ ในธุรกิจมากกว่า ดังนี้
บาริสต้า บัดดี้เป็นเพื่อนคู่คิดธุรกิจกาแฟที่ให้คำปรึกษา พร้อมมีบริการที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการเปิดร้านกาแฟเป็นอย่างดี ซึ่งสำหรับใครที่ไม่รู้จะเริ่มต้นการเปิดร้านกาแฟอย่างไร บาริสต้า บัดดี้จะเป็นที่ปรึกษาที่รับปรึกษาตั้งแต่จุดเริ่มต้น ตั้งแต่