3800 จำนวนผู้เข้าชม |
ก่อนจะตัดสินใจเลือกซื้อผงโกโก้สักยี่ห้อ สิ่งหนึ่งและสิ่งสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจก่อนเกี่ยวกับผงโกโก้คือ ผงโกโก้ทุกยี่ห้อที่วางขายอยู่นั้นไม่ใช่ผงโกโก้เหมือนกัน ผงโกโก้ที่มีราคาสูงไม่ได้รับประกันว่าผู้ซื้อจะได้รับผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น ผู้ซื้อจำเป็นต้องอ่านฉลากเพื่อดูว่าผงโกโก้ที่จะเลือกซื้อไปนั้นคือผงโกโก้แบบไหน มีขั้นตอนการผลิตอย่างไร และเป็นผงโกโก้ที่ตรงกับการใช้งานของผู้ซื้อหรือไม่ เพราะผงโกโก้ที่มีขั้นตอนการผลิตที่แตกต่างกันจะให้รสชาติที่แตกต่างกันด้วย ซึ่งสำหรับวิธีการเลือกซื้อ ผงโกโก้ ยี่ห้อไหนดี ในวันนี้เรามี 3 วิธีการเลือกซื้อ พร้อมบอกวิธีการเก็บรักษาผงโกโก้ให้ใช้ได้นานและแนะนำผงโกโก้รูปแบบต่างให้รู้จัก แถมแนะนำ ผงโกโก้แท้ 100% จากบาริสต้า บัดดี้ให้ได้เลือกไปทำขนมและชงเครื่องดื่มเมนูรสชาติอร่อยดื่มตามกัน
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าผงโกโก้ในท้องตลาดที่เราเห็นได้ในปัจจุบันมีอยู่ทั้งหมด 2 ชนิดคือผงโกโก้แบบธรรมชาติและผงโกโก้แบบ Dutch - Process ซึ่งความแตกต่างของผงโกโก้ทั้ง 2 นี้จะมีส่วนสำคัญเกี่ยวกับเลือกใช้งาน ผงโกโก้แบบธรรมชาติจะเป็นผงโกโก้สีน้ำตาลอ่อนที่ได้มาจากการแปรรูปโดยตรง มีรสชาติเข้มข้นและมีรสชาติออกเปรี้ยวนิดๆ ส่วนผงโกโก้แบบ Dutch - Process จะมีสีเข้มและออกน้ำตาลแดงมากกว่า มีเนื้อสัมผัสละเอียด นุ่มนวลและละลายง่าย แต่รสชาติของผงโกโก้แบบนี้จะมีความเข้มข้นน้อยกว่าผงโกโก้แบบธรรมชาติ ไม่มีรสเปรี้ยว ซึ่งความแตกต่างด้านรสชาติ ความเข้มข้นและเนื้อสัมผัสของผงโกโก้มีผลต่อการนำไปใช้งานรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการนำไปทำขนมหรือทำเครื่องดื่ม โดยวิธีในการเลือกซื้อผงโกโก้ให้เหมาะสมกับการใช้งานสามารถแบ่งออกเป็น 3 วิธีตามข้อมูลด้านล่าง ดังนี้
1. การใช้งาน
ผงโกโก้ทั้ง 2 แบบมีความแตกต่างทั้งด้านรสชาติ ความเข้มข้นและเนื้อสัมผัส ซึ่งสิ่งสำคัญในการเลือกซื้อผงโกโก้ให้เหมาะสมกับการใช้งานคือต้องอ่านฉลากผลิตภัณฑ์ให้ดี เพราะผงโกโก้ทั้งสองแบบจะเหมาะสมกับวิธีการใช้งานที่แตกต่างกัน หากผู้ซื้อต้องการนำผงโกโก้ไปเป็นวัตถุดิบในการทำเมนูขนมประเภทขนมอบ ผู้ซื้อต้องเลือกผงโกโก้แบบธรรมชาติเพราะผงโกโก้แบบธรรมชาติจะมีค่าความเป็นกรดและจะทำปฎิกิริยากับเบคกิ้งโซดาได้ดีกว่าผงโกโก้แบบ Dutch - Process ทำให้ขนมอบที่ทำขึ้นฟูได้ดีกว่า ส่วนผงโกโก้แบบ Dutch - Process จะเหมาะสมกับการนำไปทำเมนูเครื่องดื่มเพราะมีเนื้อสัมผัสที่ละเอียด นุ่มนวล ละลายง่ายและไม่มีรสเปรี้ยว
2. ปริมาณไขมันของผงโกโก้
ปริมาณไขมันของผงโกโก้เป็นส่วนผสมหลักในการทำให้ขนมหรือเครื่องดื่มมีรสชาติที่กลมกล่อม ดังนั้นสำหรับใครที่ต้องการให้เมนูขนมหรือเครื่องดื่มของตัวเองมีรสชาติที่เข้มข้นและอร่อยมากยิ่งขึ้น ให้เลือกซื้อผงโกโก้ที่มีเปอร์เซ็นต์ไขมันสูง เพราะเปอร์เซ็นต์ไขมันที่สูงนอกจากจะทำให้รสชาติอร่อยข้ึนแล้วผิวของขนมที่ทำจะมีความมันวาวและน่ากินมากยิ่งขึ้นด้วย ซึ่งเปอร์เซ็นต์ไขมันของผงโกโก้ (Cacoa Butter) สามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่ม 10-12% และกลุ่ม 20-24% โดยกลุ่ม 20-24% จะเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการนำมาทำขนม
3. ผงโกโก้แบบวัตถุดิบหรือแบบสำเร็จรูป
นอกจากความแตกต่างของชนิดผงโกโก้แล้ว ผงโกโก้ในตลาดยังมีตัวเลือกให้เลือกทั้งแบบเป็นวัตุดิบที่สามารถนำมาชงเป็นเครื่องดื่มได้แต่ต้องปรุงรสชาติเพิ่มเองแบบผงโกโก้แท้ 100 เปอร์เซ็นต์ของบาริสต้า บัดดี้ ที่เหมาะกับการนำมาทำเมนูเครื่องดื่มและเมนูขนม และผงโกโก้แบบสำเร็จรูปที่คิดสูตรมาให้เลย อร่อยพร้อมดื่ม เหมาะกับคนที่ต้องการความสะดวกและต้องชงในเวลาที่เร่งรีบ
ผงโกโก้จากบาริสต้า บัดดี้เป็นผงโกโก้ประเภทวัตถุดิบ เป็นผงโกโก้แท้ 100% คุณภาพดี มีกลิ่นหอม โกโก้ ชัด มีรสชาติอร่อยเข้มข้น มีสัมผัสนุ่มนวลและมีสีน้ำตาลเข้มจากโกโก้ตามธรรมชาติจากประเทศกานาและอินโดนีเซีย เหมาะสำหรับนำมารังสรรค์รสชาติและนำมาเป็นวัตถุดิบในการทำขนม เบเกอรี่และเครื่องดื่มเมนูร้อนและเมนูเย็น มีรสชาติถูกปากและโดนใจสามารถทำเพื่อจัดจำหน่ายและชงเองในครอบครัวได้ โดยผงโกโก้ของบาริสต้า บัดดี้มีให้เลือก 2 สูตรคือ
ผงโกโก้ของบาริสต้า บัดดี้ทั้ง 2 สูตร สูตรพรีเมียมและสูตรธรรมดาสามารถนำมาใช้เป็นวัตถุดิบทำขนมและเครื่องดื่มได้โดยการนำไปละลายในน้ำร้อน นมสดหรือนมอุ่น
วิธีการเก็บรักษาผงโกโก้สามารถทำได้เช่นเดียวกันกับการเก็บรักษาผงเครื่องเทศหรือผงเครื่องปรุงต่างๆ คือ ผงโกโก้ควรจัดเก็บไว้ในภาชนะสุญญากาศในที่แห้งและเย็น ตัวอย่างเช่นในตู้กับข้าวหรือตู้เก็บของ
ควรหลีกเลี่ยงการแช่ไว้ในตู้เย็นหรือช่องแช่แข็ง เพราะทั้งตู้เย็นและตู้แช่แข็งมีสภาพแวดล้อมที่เย็นซึ่งอาจทำเกิดความชื้นขึ้นได้กับผงโกโก้ ผงโกโก้ที่ถูกจัดเก็บและดูแลรักษาไว้เป็นอย่างดีจะสามารถเก็บได้ยาวนานกว่า 2 ปี แต่ความเข้มข้นของรสชาติอาจจะจางหายไปเล็กน้อยเมื่อเวลาผ่านไป
ติดต่อสอบถาม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ Line Official คลิ๊ก >> 
