กาแฟดำ เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่คนทั้งโลกคุ้นเคย!

กาแฟดำ คือหนึ่งในเมนูโปรดของ Coffee Lover หรือคนที่คลั่งไคล้ในการดื่มกาแฟ เพราะเมนูกาแฟดำเป็นเมนูเครื่องดื่มที่เข้มข้น ไม่ปรุงแต่งกลิ่นสีใด ๆ ช่วยกระตุ้นร่างกายให้สดชื่นหลังดื่ม และเมนูกาแฟดำยังเป็นเมนูเครื่องดื่มยอดนิยมในช่วงเช้า

วันนี้ Barista Buddy จะมาเล่าเรื่องราวของกาแฟดำ และทำความรู้จัก ประวัติ ประโยชน์ และเมนูกาแฟดำแนะนำที่ทุกคนต้องไปลองดื่มกัน

กาแฟดำคืออะไร?

กาแฟดำ เป็นเครื่องดื่มที่ผลิตจากเมล็ดกาแฟคั่ว ซึ่งสกัดมาจากเมล็ดกาแฟโดยตรง ยังไม่ผ่านการใส่นมหรือปรุงแต่งรสชาติใด ๆ ใน กาแฟดำ จะมีทั้งรสชาติ คาเฟอีนที่กลั่นออกมาอย่างเข้มข้น สามารถเสิร์ฟได้ทั้งในรูปแบบร้อน หรือแบบเย็นโดยแช่เย็น หรือใส่น้ำแข็งลงไป

ส่วนใหญ่แล้ว ทั่วโลกนิยมบริโภคกาแฟดำ แต่ละประเทศก็จะดื่มกาแฟดำแตกต่างกันออกไปตามแต่ละวัฒนธรรม เช่น สหรัฐอเมริกา ดื่มกาแฟดำกันในตอนเช้า เพราะช่วยให้ตื่นตัวและพร้อมออกไปทำงาน ที่ประเทศไทยก็เช่นกัน บางคนมักดื่มกาแฟดำเป็นเครื่องดื่มหลักในมื้อเช้า ช่วยกระตุ้นร่างกายให้ออกไปทำงานได้อย่างเต็มที่

หากคนที่ไม่สามารถดื่มกาแฟได้โดยตรง เพราะรสชาติที่เข้มข้น หรือปริมาณคาเฟอีนมากเกินไป ก็อาจจะเติมครีมเทียม น้ำตาล หรือสารให้ความหวาน และเมื่อใส่ส่วนผสมต่างๆ ลงไป ก็จะกลายเป็นเครื่องดื่มกาแฟอื่นๆ เช่น คาปูชิโน่ ลาเต้ หรือมอคค่า ที่คนส่วนใหญ่นิยมดื่มกัน

ประวัติของกาแฟดำ

ก่อนอื่นต้องพูดถึงความเป็นมาของเมล็ดกาแฟกันเสียก่อน เมล็ดกาแฟ ถือเป็นพืชโบราณมาตั้งแต่สมัยเอธิโอเปีย โดยคนเลี้ยงแพะสังเกตว่า เมื่อแพะได้กินผลเมล็ดกาแฟเข้าไป แพะจะกระฉับกระเฉงไม่ยอมนอน จึงทำให้ชาวเอธิโอเปียทดลองทานเมล็ดกาแฟและพบว่าทำให้ตื่นตัวในมนุษย์ได้เช่นกัน นับตั้งแต่นั้นมาเมล็ดกาแฟจึงดัดแปลงมาอยู่ในรูปแบบเมนูเครื่องดื่มได้รับความนิยมไปแพร่หลายไปทั่วโลก

จาก เมล็ดกาแฟ สู่เมนูกาแฟดำมีที่มาได้อย่างไรนั้น จุดเริ่มต้นมาจากประเทศอิตาลี ที่หลายคนมักนิยมดื่มช็อตกาแฟเข้มข้น หรือเมนูเอสเพรสโซ่ ส่วนเมนูอเมริกาโน่ เริ่มต้นมาจากทหารอเมริกันออกไปรบสงครามโลกครั้งที่ 2 ต้องการที่จะดื่มกาแฟแต่ไม่อยากให้รสชาติเข้มข้นมากเกินไป จึงนำช็อตกาแฟเข้มข้นไปผสมกับน้ำเปล่า จนได้เมนูอเมริกาโน่ ที่นิยมดื่มกันในทุกวันนี้

เคล็ดลับการชงกาแฟดำให้อร่อย

หลังจากรู้ประวัติของกาแฟดำแบบครบรอบด้านแล้ว เรามาเรียนรู้วิธีการชงกาแฟดำให้อร่อยถูกใจคอกาแฟทุกคนกัน โดยแบ่งได้เป็น 3 ข้อหลัก ๆ

1. เลือกแก้วกาแฟ

ควรเลือกแก้วกาแฟที่สามารถรักษาอุณหภูมิความร้อนได้นาน ช่วยให้รสชาติกาแฟดำคงเดิมไม่เปลี่ยนไป
หากแก้วกาแฟเย็นเร็วไปอาจทำให้รสชาติกาแฟจืดชืด ไม่กลมกล่อม

2. เลือกซื้อเมล็ดคั่วกาแฟที่ได้มาตรฐาน

ควรเลือกซื้อเมล็ดกาแฟที่มีการจัดเก็บใส่ถุงปิดผนึกซีลสูญญากาศอย่างดี ป้องกันแสงแดดและอุณหภูมิที่อาจทำร้ายเมล็ดกาแฟ และยังช่วยเก็บกลิ่นและรสชาติของกาแฟไว้ได้นาน 

3. เลือกใช้น้ำในการต้ม

ควรเลือกใช้น้ำสะอาด หรือน้ำแร่ธรรมชาติ ไม่ควรใช้น้ำประปาในการนำมาชงกาแฟดำ เพราะอาจทำให้รสชาติของกาแฟดำแปลกหรือไม่อร่อยได้

เมนูกาแฟดำ

หลังจากที่ทำความรู้จักกับกาแฟดำพอสมควรแล้ว เรามาลองลิ้มรสชาติกับ 9 เมนูกาแฟดำที่คอกาแฟต้องลองทาน

1. เมนูเอสเพรสโซ่ (Espresso)

มาจากภาษาอิตาเลียนที่แปลว่า กาแฟอัด กาแฟดำที่เรียกกันว่าช็อตกาแฟเข้มข้น มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอิตาลี มีกรรมวิธีจากการถูกสกั่นผ่านแรงดันน้ำที่เดือดจัด ผ่านตัวเมล็ดกาแฟโดยตรง เป็นพื้นฐานของเมนูกาแฟอีกหลากหลายเมนู
ซึ่งประเทศไทยเราดื่มเอสเพรสโซ่แตกต่างจากที่อื่น เพราะมีการใส่ครีมเทียมหรือนมข้นหวานลงไป แต่ต่างประเทศนิยมดื่มเป็นช็อตกาแฟร้อนๆ ไม่ผสมอะไรลงไปเลย

แนะนำเมล็ดกาแฟที่เหมาะกับเมนูกาแฟเอสเพรสโซ่

เมล็ดกาแฟแจ้ห่ม จาก BARISTA BUDDY

ราคา 260.- (500 กรัม)

เมล็ดกาแฟอาราบิก้าแจ้ห่ม จากเทือกเขาในจังหวัดลำปาง เป็นเมล็ดกาแฟอาราบิก้า 100% ที่มีบอดี้หนักแน่น ถูกคัดเมล็ดกาแฟแบบพิเศษ คั่วระดับ Dark รสชาติกาแฟเข้มข้น ดื่มแล้วรสชาติยังติดปาก เป็นอาราบิก้าที่มีบอดี้กาแฟที่หนักแน่นรสชาติกาแฟจะติดค้างอยู่ในปากนานกว่าปกติ

2. เมนูอเมริกาโน่ (Americano)

เมนูกาแฟสัญชาติอเมริกา โดยคนอเมริกันดัดแปลงนำช็อตเอสเพรสโซ่ มาผสมกับน้ำร้อน ในอัตราส่วน 1:2, 1:3 หรือ 1:4  เพื่อทำให้เจือจางลงและดื่มง่ายขึ้น ทำให้เมนูอเมริกาโน่แพร่หลายทั่วโลก

3. ริสเทรตโต้ (Ristretto)

ช็อตกาแฟเหมือนกับเมนูเอสเพรสโซ่ แต่มีความเข้มข้นกว่าเพราะใช้ช็อตน้อยกว่า ได้รสชาติที่เข้มข้น เน้นรสกาแฟแท้ๆ

4. ดอปปีโอ (Doppio)

กาแฟที่เข้มข้นมาอีกขั้น หรือเอสเพรสโซ่ 2 ช็อต ได้รสชาติกาแฟแบบเน้นๆ ดื่มแล้วตื่นตัว ไม่ต้องดื่มกาแฟอะไรเพิ่มอีก

5. ลองแบล็ค (Long Black)

เป็นกาแฟดำที่คล้ายกับอเมริกาโน่ แต่กรรมวิธีการทำแตกต่างกัน โดยลองแบล็ค จะเติมน้ำร้อนลงในแก้วก่อน และค่อยใส่ช็อตเอสเพรสโซ่ลงไป ทำให้กาแฟเกิดชั้นฟองขึ้น มีรสชาตินุ่มนวลและเข้มข้น หอมกาแฟ

6. โคลด์บริว (Cold Brew)

เมนูกาแฟสกัดที่เริ่มแพร่หลายไปทั่วโลก ถูกคิดค้นจากประเทศญี่ปุ่น กรรมวิธีจะใช้เมล็ดกาแฟบดให้ละเอียดและนำไปผสมกับน้ำเย็นหรือน้ำที่อุณหภูมิปกติเป็นเวลา 2 ชั่วโมง ได้กาแฟที่รสชาติเข้มข้น เปรี้ยวเล็กน้อย ดื่มแล้วให้ความสดชื่น รสชาติละมุน คนทั่วไปสามารถทำได้เอง ไม่ต้องมีเครื่องสกัดกาแฟก็สามารถทำได้

7. ลุงโก (Lungo)

มาจากภาษาอิตาลีที่แปลว่า ยาว โดยทำช็อตเอสเพรสโซ่ ปล่อยให้น้ำไหลผ่านยาวๆ จนได้ปริมาณ 3 - 4 ออนซ์ หรือที่เรียกขั้นตอนว่าการลากกาแฟ ได้รสชาติเข้ม ขม และฝาด มากกว่ากาแฟทั่วไป

8. คอเร็ทโต้ (Corretto)

กาแฟดำสไตล์อิตาเลียน โดยผสมเอสเพรสโซ 1 ช็อตกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ต้องการลงไป ได้เมนูรสกาแฟที่เข้มข้น แปลกใหม่ และน่าลอง

9. เอสเพรสโซ่โรมาโน่ (Espresso Romano)

เป็นกาแฟดำใส่เลมอน หรือมะนาวฝานบางๆ ลงไป เพื่อเพิ่มความเปรี้ยวและสดชื่น เป็นเมนูที่ช่วยทำให้ตื่นตัวและยังมีรสชาติออกผลไม้อีกด้วย

ประโยชน์ดีๆ ของกาแฟดำ

ขึ้นชื่อว่าเป็นกาแฟดำแล้ว นอกจากจะช่วยให้เราตื่นตัว และกระตุ้นสมองพร้อมออกไปทำงานหลังดื่ม นอกจากนี้ยังมี
ประโยชน์อื่นๆ ที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อน ไม่ว่าจะเป็น

• กาแฟดำเป็นเครื่องดื่มที่เหมาะกับคนที่กำลังควบคุมน้ำหนัก

เพราะกาแฟดำไม่มีน้ำตาล ไม่ใส่ครีมเทียม หรือสารที่ทำความหวาน ทำให้ดื่มได้ทุกวัน ไม่ก่อให้เกิดไขมันภายในร่างกาย และยังมีส่วนช่วยละลายไขมันในร่างกายได้ดี

• กาแฟดำลดความเสี่ยงจากโรคหัวใจ

มีส่วนช่วยในการลดคอเลสเตอรอลในเลือด และยังป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว แต่ไม่เหมาะกับคนที่เป็นโรคหัวใจ

• กาแฟดำมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง

มีสรรพคุณช่วยในชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ และลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรังบางชนิดได้

• กาแฟดำช่วยให้ร่างกายสดชื่น

ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัว และเพิ่มระบบการเผาผลาญในร่างกายได้ดี 

• กาแฟดำป้องกันการปวดศีรษะ

เพราะในคาเฟอีนมีส่วนช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น แต่ต้องรับประทานคาเฟอีนในระดับที่พอดีต่อร่างกายที่ต้องการ


ได้รับความรู้เรื่องกาแฟดำในหลากหลายแง่มุม ตั้งแต่ประวัติ กรรมวิธีการทำและเมนูแนะนำที่น่าลองดื่ม ใครที่ยังไม่เคยลองกาแฟเลย อยากให้ลองดื่มกาแฟดำดู รับรองว่าคุณต้องติดใจและติดดื่มกาแฟในชีวิตประจำวันอย่างแน่นอน

แหล่งอ้างอิง :
https://www.sanook.com/home/23321/
https://www.ncausa.org/about-coffee/history-of-coffee
https://www.coffeefavour.com/way-to-make-coffee/
https://www.wongnai.com/articles/black-coffee
https://th.wikihow.com/%E0%B8%8A%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%9F%E0%B8%94%E0%B8%B3